1448 จำนวนผู้เข้าชม |
เครื่องมือสำคัญและข้อจำกัดในกระบวนการการชุบแข็ง
สิ่งสำคัญหลักคือส่วนประกอบในการให้ความร้อนแก่ชิ้นงาน มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ขดลวดเหนี่ยวนำ (Coil) และเป็นเครื่องมือที่นำความร้อนเกี่ยวข้องกับรูปทรงเรขาคณิตของชิ้นงาน
บริษัท เค.ดี.ฮีท เทคโนโลยี (ประเทศไทย) ให้บริการออกแบบและผลิตตัวเหนี่ยวนำความร้อน (Coil) ที่สามารถใช้กับชิ้นงานที่มีความหลากหลายได้ เนื่องจากระยะการเชื่อมต่อระหว่างส่วนต่อขดลวดมีความสำคัญต่อประสิทธิภาพการทำความร้อน จึงต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในการผลิตตัวเหนี่ยวนำทั้งนี้รวมไปถึงการเลือกผู้ออกแบบและผลิตนั้นจึงเป็นส่วนที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง ชิ้นงานจะไม่เกิดการเสียหายผิดรู้นั้นจะขึ้นอยู่กับส่วนนี้ โดยขนาดและรูปร่างของตัวเหนี่ยวนำความร้อน (Coil) จะขึ้นอยู่กับรูปแบบของชิ้นงานเพื่อให้เหมาะสมกับชิ้นงานอย่างระมัดระวัง
ข้อจำกัดของการชุบแข็ง ในขณะที่ตัวเหนี่ยวนำความร้อน (Coil) เป็นพื้นฐานเพื่อให้ความร้อนกับรูปร่างของชิ้นงานในรูปแบบที่หลากหลาย เช่น เพลา หมุด ลูกกลิ้ง ฯลฯ ซึ่งบางชิ้นงานตามความต้องการของลูกค้าการอาจต้องใช้ขดลวดเหนี่ยวนำความร้อนที่ต้องการการออกแบบพิเศษ จึงอาจจะมีค่าใช้จ่ายสำหรับการสั่งทำเพื่อให้ตัวเหนี่ยวนำความร้อนมีความเหมาะสมกับรูปแบบของชิ้นงานมากที่สุด
ในกรณีอื่นๆ สำหรับโครงการที่มีชิ้นงานที่ต้องการการชุบแข็งปริมาณน้อย บางกรณีจะต้องทำการออกแบบและผลิตตัวเหนี่ยวนำความร้อนขึ้นมาใหม่ ก็จะต้องมีต้นทุนการผลิตทำให้กระบวนการนี้ไม่สามารถทำได้หากต้องผลิตตัวเหนี่ยวนำใหม่ เรามีตัวเหนี่ยวนำความร้อน (Coil) ในหลากหลายแบบที่สามารถใช้ได้กับรูปแบบชิ้นงานต่างๆให้กับลูกค้า นอกเเหนือจากนี้เราให้บริการการปรับปรุงซ่อมแซมตัวเหนี่ยวนำความร้อน
มีโอกาสเกิดการแตกร้าวเมื่อเทียบกับกระบวนการอบชุบด้วยความร้อนส่วนใหญ่
โอกาสเกิดการแตกร้าว (Quench Cracking) ทั้งนี้เนื่องมาจากการให้ความร้อนผ่านตัวเหนี่ยวนำความร้อนและจากนั้นทำการดับความร้อนด้วยละอองน้ำอย่างรวดเร็ว รวมถึงแนวโน้มที่จะสร้างจุดร้อนที่คุณสมบัติ ขอบต่างๆ เช่น รูกุญแจ ร่อง รูตามขวาง หรือเกลียว บริษัท เค.ดี.ฮีท เทคโนโลยี (ประเทศไทย) เรามีความเชี่ยวชาญและมีทีมงานที่มีความสามารถเฉพาะทางในด้านการชุบแข็ง ซึ่งโอกาสที่ชิ้นงานจะเกิดการแตกร้าวมีเพียง 0.01 เปอร์เซ็นท์ เรามีการตรวจสอบทุกชิ้นงานเป็นระยะ เพื่อให้งานออกมามีคุณภาพตามมาตรฐานที่บริษัท เค.ดี. ฮีท เทคโนโลยี ตั้งไว้
การเสียรูปหรือบิดเบี้ยวด้วยการชุบแข็งแบบเหนี่ยวนำความร้อน
ระดับการบิดเบี้ยวหรือการเสียรูป (Distortion) มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นได้เนื่องจากระหว่างการชุบ มีการเปลี่ยนแปลงเฟสและการขยายตัวเนื่องจากความร้อนการเย็นตัวด้วยน้ำอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงของมาร์เทนซิติกที่เป็นผลลัพธ์ ดังที่กล่าวไว้ ดังนั้นหนึ่งในเป้าหมายของการชุบแข็งของเราคือ ต้องการให้ผิวชิ้นงานที่ถูกชุบมีความแข็งในระดับที่ต้องการ และมีความแข็งสม่ำเสมอทั่วชิ้นงาน เพื่อให้ชิ้นงานไม่เกิดการบิดเบี้ยว (Deformed) ดังนั้น cooling rate และ cooling curve ของน้ำมันที่ใช้ในกระบวนการชุบแข็ง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราใส่ใจเพื่อที่ทำให้ชิ้นงานมีคุณภาพตามต้องการ